2nd benefit

2nd benefit

ผู้บริโภคฉะ กสทช. แก้ปัญหา SMS ไม่ได้โยนภาระให้ผู้บริโภค ย้ำ บังคับใช้ประกาศ กสทช.

610419 news

ผู้บริโภคฉะ กสทช. แก้ปัญหา SMS ไม่ได้โยนภาระให้ผู้บริโภค  ย้ำ บังคับใช้ประกาศ กสทช. การโทรศัพท์หรือส่งข้อความโฆษณา  ก่อความเดือดร้อนรําคาญแก่ผู้บริโภค ปรับไม่เกินห้าล้านบาท และหากฝ่าฝืนให้คณะกรรมการปรับรายวันอีกไม่เกินวันละ 100,000 บาท

18 เมษายน 2561 เวลา 14:40 น. ณ ห้องประชุมชั้น 2 มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค – คณะกรรมการอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคภาคประชาชน (คอบช.) แถลงข่าว กรณี กสทช.แก้ปัญหา SMS ไม่จบ และ ข้อมูลลูกค้ารั่วของบริษัททรู

ตามที่ นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) แถลงข่าว สั่งค่ายมือถือ ส่ง sms 2 ครั้ง เป็นการส่ง SMS เพื่อขอบคุณที่ใช้บริการ และ SMS แจ้งให้สามารถกด *137 โทรออกเพื่อยกเลิกบริการ ซึ่งจะสามารถยกเลิกการใช้บริการเสริมนั้นได้ทันที ซึ่งจะสามารถดำเนินการได้ตั้งแต่วันที่ 24 เม.ย. 2561 เป็นต้นไปนั้น

รศ.รุจน์ โกมลบุตร รองประธานคณะกรรมการองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคภาคประชาชน (คอบช.) เห็นว่า วิธีการดังกล่าวเป็นการผลักภาระให้กับผู้บริโภคต้องมายกเลิกเอง ทั้งที่การส่ง SMS รบกวน และดูดเงิน เป็นการกระทำที่เข้าข่ายเอาเปรียบผู้บริโภค และหากจะมีการส่ง SMS ควรเป็นข้อความเพื่อให้ยืนยันการสมัครเท่านั้น หากไม่กดก็ต้องถือว่ายกเลิกโดยปริยาย เพราะคนส่วนใหญ่อาจไม่ได้อ่านข้อความ SMS ทั้งหมดที่ส่งมา

อีกปัญหาหนึ่งคือ ต้องแก้ไข โปรแกรม “วางกับดัก” ที่เพียงผู้บริโภค "มือลั่น ก็ถือว่าเป็นการสมัครใช้บริการ SMS แล้วกับดักที่มีหลายรูปแบบทั้งที่ผู้บริโภคเพียงลาก หรือสไลด์มือถือ หรือกดหน้าจอเพื่อปิดก็เป็นการสมัครแล้วทั้งที่ผู้บริโภคไม่ได้ตั้งใจ และยังมีลูกเล่นว่า วิธีมือลั่นดังกล่าวจะไม่เกิดกับทุกคน ทำให้เข้าใจว่าเป็นความผิดพลาดของผู้บริโภคเอง

sms

นอกจากนี้ นางสาวบุญยืน ศิริธรรม นายกสมาคมสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค กล่าวว่า กสทช. ควรบังคับใช้ประกาศ กสทช. เรื่อง การกระทําที่น่าจะเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม โดยอาศัยการใช้เครือข่ายหรือการโฆษณาอันมีลักษณะเป็นการค้ากําไรเกินควร หรือก่อให้เกิดความเดือดร้อนรําคาญ พ.ศ. 2558 ซึ่งกำหนดไว้ใน ข้อ 5 (5) ว่า การกระทําโดยการโทรศัพท์หรือส่งข้อความการโฆษณามายังเครื่องโทรคมนาคมหรืออุปกรณ์ของผู้บริโภคจนก่อให้เกิดความเดือดร้อนรําคาญแก่ผู้บริโภค หรือโดยมิได้รับอนุญาต หรือความยินยอมจากผู้บริโภค ซึ่งมีโทษทางปกครอง กรณีฝ่าฝืนคำสั่ง คือ ปรับไม่เกินห้าล้านบาท และหากฝ่าฝืนให้คณะกรรมการปรับรายวันอีกไม่เกินวันละ 100,000 บาท

ส่วน นางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค (มพบ.) และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ประสาท มีแต้ม คณะกรรมการองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคภาคประชาชน (คอบช.) กล่าวเพิ่มเติม กรณีการเปิดเผยข้อมูลลูกค้าทรู เห็นว่า กสทช. และรัฐบาลควรเร่งผลักดันให้มีการจัดทำกฎหมายว่าด้วยเรื่องการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยยึดหลักการว่าหากมีการปล่อยให้ข้อมูลรั่ว ก็ถือเป็นความผิดแล้ว แม้ว่าจะไม่ได้นำข้อมูลนั้นไปใช้เพื่อการค้า หรือก่อความเสียหายใดๆ ก็ตาม เนื่องจากเข้าข่ายเป็นการละเมิดต่อสิทธิส่วนบุคคล หากกรณีเช่นนี้เกิดขึ้นในสหภาพยุโรป จะมีกฎหมาย The EU General Data Protection Regulation ถูกปรับเงินร้อยละ 4 ของรายได้บริษัท หรือไม่ต่ำกว่า 20 ล้านยูโร ขึ้นอยู่กับอันใดมากกว่า ซึ่งกฎหมายนี้จะมีผลบังคับใช้ วันที่ 25 พฤษภาคมนี้ 

(ติดตามชมย้อนหลัง - คณะกรรมการอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคภาคประชาชน (คอบช.) แถลงด่วน! กรณี กสทช.แก้ปัญหา SMS ไม่จบ และ ข้อมูลลูกค้ารั่วของบริษัททรู ได้ที่นี่ >> http://bit.ly/2qHRytm)

ประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสuยง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ 
เรื่อง การกระทําที่น่าจะเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม โดยอาศัยการใช้เครือข่ายหรือการโฆษณา 
อันมีลักษณะเป็นการค้ากําไรเกินควร หรือก่อให้เกิดความเดือดร้อนรําคาญ พ.ศ. 2558
- รายละเอียดฉบับเต็ม ดาวน์โหลดได้ที่ - http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2558/E/212/10.PDF