2nd benefit

2nd benefit

คอบช.จี้รัฐมนตรียุติเรียกเก็บเงินกรณีฉุกเฉิน-สบส.ต้องให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย

SupapornTinwattanakul

วันนี้ (19 พ.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น. นางสาวสุภาพร ถิ่นวัฒนากูล กรรมการองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคภาคประชาชน ออกแถลงการณ์ เรียกร้องให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายไม่ใช่มีการประชุมเฉพาะโรงพยาบาลเอกชน และสมาคมโรงพยาบาลเอกชน เพราะจะไม่ได้รับการยอมรับในการแก้ไขปัญหาจากผู้ป่วยและผู้บริโภคพร้อมย้ำต้องให้รัฐมนตรีออกประกาศยุติการเรียกเก็บเงินในกรณีฉุกเฉินและให้ผู้บริโภคมีสิทธิซื้อยานอกหน่วยบริการ

เครือข่ายผู้บริโภค ขอเสนอมาตรการเร่งด่วนในกรณีฉุกเฉินให้มีการดำเนินการ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข ตามมาตรา 35(4) ประกอบมาตรา 36 ของพรบ. สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 โดยมีสาระสำคัญดังนี้

  1. ให้โรงพยาบาลทุกแห่ง ทั้งภาครัฐ และเอกชน ยุติการเรียกเก็บเงินกับผู้ป่วยและญาติในกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน ให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน
  2. ให้โรงพยาบาลที่ดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินนั้นมีหน้าที่ในการส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลตามสิทธิ 
  3. ให้ โรงพยาบาลเอกชนยอมรับราคากลางในการจ่ายกรณีฉุกเฉินของทั้ง 3 กองทุน (สปสช. สปส. กรมบัญชีกลาง) 
  4. ทำความร่วมมือกับรถบริการผู้ป่วยฉุกเฉิน ให้ความสำคัญกับการจัดส่งผู้ป่วยในสถานพยาบาลของรัฐแทนหน่วยเอกชนที่ใกล้เคียง รวมทั้งพัฒนาหน่วยบริการภาครัฐให้มีประสิทธิภาพและบริการในกรณีฉุกเฉิน

 

ข้อเสนอการควบคุมค่ารักษาพยาบาลและค่ายา

  1. ขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แต่งตั้งคณะกรรมการควบคุมราคาค่ารักษาพยาบาลที่มีองค์ประกอบจากทุกฝ่ายและมีสัดส่วนผู้ใช้บริการไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง
  2. ให้คณะกรรมการฯ ข้างต้นทำหน้าที่คุ้มครองสิทธิผู้บริโภคในการเลือกซื้อสินค้าและบริการและได้ข้อมูลที่ครบถ้วนในการตัดสินใจ โดยสนับสนุนให้ผู้ป่วยและผู้บริโภคสามารถซื้อยาและเวชภัณฑ์นอกโรงพยาบาลตามสิทธิของผู้บริโภคที่มีและได้รับการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522
  3. ให้คณะกรรมการทำหน้าที่ตรวจสอบการรักษาของโรงพยาบาลเอกชนว่า มีการตรวจรักษาเกินจริง หรือไม่จำเป็นมากน้อยแค่ไหนอย่างไร เพื่อให้ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพถูกลงและเป็นเหตุเป็นผลมากขึ้น
  4. ให้ความรู้กับผู้ป่วยและญาติให้เกิดความเข้าในในแนวทางการรักษาพยาบาลเพื่อให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมในการกำหนดแนวทางในการรักษามากยิ่งขึ้น (consumer practices guild lines)
  5. ให้มีบริการสำหรับผู้ป่วยและผู้บริโภคในการหาความเห็นที่สองในการรักษาพยาบาล (second opinion)
  6. เร่งดำเนินการให้มีแพทย์ประจำครอบครัวเพื่อให้คำแนะนำและคำปรึกษาด้านสุขภาพและช่วยสนับสนุนการดูสุขภาพของครอบครัวนั้นๆ

รวมทั้งขอให้คณะกรรรมาธิการปฏิรูประบบสาธารณสุข (สปช.) สนับสนุนคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญการปฏิรูปด้านสาธารณสุข ในมาตรา 294 (4) “ให้มีการพัฒนากลไกกำกับดูแลระบบสุขภาพและการให้บริการสุขภาพในระบบเศรษฐกิจแบบตลาดที่เป็นธรรม กำกับควบคุมราคายา และค่าบริการทางการแพทย์ให้มีราคาและค่าใช้จ่ายที่เหมาะสมและเป็นธรรมต่อผู้รับบริการ”

 

ข่าว-บทความที่มีเนื้อหาใกล้เคียงกัน:

|