หลักเกณฑ์การคัดเลือกกรรมการองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค ภาคประชาชน ชุดที่ 2
หลักเกณฑ์การขึ้นทะเบียนองค์กรผู้บริโภค
เพื่อเสนอชื่อผู้เชี่ยวชาญ และผู้แทนองค์กรผู้บริโภคระดับเขต
คัดเลือกกันเองเป็นคณะกรรมการเครือข่ายองค์กรผู้บริโภค
..................................................................................................................
ด้วยคณะกรรมการองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคภาคประชาชน มีบทบาทสำคัญในการคุ้มครองผู้บริโภค ทั้งการให้ความเห็น ข้อเสนอแนะต่อหน่วยงานของรัฐ เช่น ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อ พ.ร.บ.การทวงถามหนี้ จนมีคณะกรรมการทวงถามหนี้ในระดับจังหวัดและระดับประเทศซึ่งกำหนดให้มีผู้แทนองค์กรพัฒนาเอกชนในด้านการคุ้มครองผู้บริโภค การทำความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในการแก้ไขปัญหาการส่งต่อผู้ป่วยในระบบการแพทย์ฉุกเฉินเพื่อให้การบริการมีคุณภาพผู้ป่วยไม่ถูกเรียกเก็บเงินเพิ่ม การตรวจสอบมาตรฐานผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน รถยนต์ เชฟโรเลต ครูซ และแคปติวา การเสนอให้ กสทช. ออกคูปองกล่องทีวีดิจิตอลในราคา ๖๙๐ บาท ซึ่งจะทำให้รัฐสามารถประหยัดงบประมาณไปได้เกือบ ๗๐๐ ล้านบาท งานศึกษาวิจัยสถานการณ์ความปลอดภัยของการบริโภคน้ำดื่มที่ผลิตจากเครื่องผลิตน้ำดื่มหยอดเหรียญ ยกระดับไปสู่นโยบายสาธารณะ ในเรื่องน้ำดื่มปลอดภัยของสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ปี ๒๕๕๙ ซึ่งคณะกรรมการฯ ได้ดำเนินงานมาครบตามวาระ ๔ ปี จึงจัดให้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการฯ ชุดใหม่ขึ้น
ด้วยเหตุนี้ คอบช. จึงขอเชิญชวนองค์กรผู้บริโภคทั่วประเทศเพื่อเสนอชื่อบุคคลเป็นกรรมการ และร่วมคัดเลือกในวันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๖๐ โดยมีกรรมการจำนวน ๑๕ คน ดังนี้
ก. ผู้แทนจากผู้เชี่ยวชาญด้านการคุ้มครองผู้บริโภค ๗ คน ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ จำนวน ๗ ด้าน ดังนี้
(๑) ด้านการเงินและการธนาคาร
(๒) ด้านการบริการสาธารณะ
(๓) ด้านที่อยู่อาศัย
(๔) ด้านบริการสุขภาพ
(๕) ด้านสินค้าและบริการทั่วไป
(๖) ด้านการสื่อสารและโทรคมนาคม
(๗) ด้านอาหาร ยา หรือผลิตภัณฑ์สุขภาพ
ข. ผู้แทนจากองค์กรผู้บริโภคระดับเขต ๘ คน โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็น ๘ เขต ดังนี้
เขต ๑ ภาคกลาง
ประกอบด้วย จังหวัดสิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี นครนายก พระนครศรีอยุธยา นนทบุรี ปทุมธานี และสระบุรี
เขต ๒ ภาคตะวันออก
ประกอบด้วย จังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ปราจีนบุรี สระแก้ว และสมุทรปราการ
เขต ๓ ภาคอีสานตอนบน
ประกอบด้วย จังหวัดอุดรธานี หนองบัวลำภู หนองคาย เลย สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ ขอนแก่น มหาสารคาม ชัยภูมิและบึงกาฬ
เขต ๔ ภาคอีสานตอนล่าง
ประกอบด้วย จังหวัดมุกดาหาร ร้อยเอ็ด นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี และยโสธร
เขต ๕ ภาคเหนือ
ประกอบด้วย จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน พิษณุโลก ตาก เพชรบูรณ์ สุโขทัย
อุตรดิตถ์ นครสวรรค์ อุทัยธานี กำแพงเพชร ชัยนาทและพิจิตร
เขต ๖ ภาคตะวันตก
ประกอบด้วย จังหวัดนครปฐม สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์
เขต ๗ ภาคใต้
ประกอบด้วย จังหวัดชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง พัทลุง ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลา และสตูล
เขต ๘ กรุงเทพมหานคร
..................................................................................................................
๑. คุณสมบัติองค์กรผู้บริโภค
องค์กรผู้บริโภคที่ประสงค์จะขอขึ้นทะเบียนเสนอชื่อบุคคลเพื่อคัดเลือกเป็นกรรมการเครือข่ายองค์กรผู้บริโภค
๑.๑) เป็นองค์กรนิติบุคคลที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ เป็นคณะบุคคลตั้งแต่สิบคนขึ้นไป
๑.๒) มีวัตถุประสงค์และมีการดำเนินงานเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคโดยไม่แสวงหากำไรหรือรายได้มาแบ่งปันกัน
๑.๓) องค์กรต้องเป็นอิสระ ไม่ถูกจัดตั้งหรือหรือตกอยู่ภายใต้อาณัติไม่ว่าทางตรงหรือโดยอ้อมของผู้ประกอบการ
๑.๔) มีผลการดำเนินงานเป็นที่ประจักษ์ต่อเนื่องมาแล้วไม่น้อยกว่า ๒ ปี นับถึงวันขึ้นทะเบียน
(แบบ ก.๑ แบบคำขอขึ้นทะเบียนองค์กรผู้บริโภคฯ >> doc | pdf)
(แบบ ก.๒ ประวัติและรายงานผลการดำเนินงานขององค์กรผู้บริโภคที่ใช้สิทธิเสนอชื่อกรรมการเครือข่ายองค์กรผู้บริโภค >> doc | pdf)
(แบบ ข.๑ หนังสือรับรององค์กรผู้บริโภค >> doc | pdf)
..................................................................................................................
๒. การเสนอชื่อบุคคล
องค์กรผู้บริโภคที่ประสงค์จะขอขึ้นทะเบียนเพื่อเสนอชื่อบุคคล สามารถเสนอชื่อบุคคลได้ ดังนี้
๒.๑) ผู้เชี่ยวชาญด้านใดด้านหนึ่ง จำนวน ๑ คน (แบบ ก.๓๑ >> doc | pdf)
๒.๒) ผู้แทนระดับเขต จำนวน ๑ คน (แบบ ก.๓๒ >> doc | pdf)
..................................................................................................................
๓. วิธีการขึ้นทะเบียน
๓.๑) องค์กรผู้บริโภคที่ประสงค์จะขอขึ้นทะเบียนเพื่อเสนอชื่อบุคคล ให้ส่งแบบคำขอขึ้นทะเบียนองค์กร
๓.๒) แบบแสดงความสมัครใจของผู้ได้รับการเสนอชื่อ พร้อมเอกสารหลักฐานที่กำหนด
๓.๓) ช่องทางการส่งเอกสาร
๓.๓.๑) ส่งเอกสารด้วยตนเอง
๓.๓.๒) ทางอีเมล์ This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
๓.๓.๓) ส่งทางไปรษณีย์มาที่
สำนักงานเลขานุการคณะกรรมการองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค ภาคประชาชน (คอบช.)
๔/๒ ซ.วัฒนโยธิน แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร ๑๐๔๐๐
..................................................................................................................
๔. วิธีการคัดเลือก
๔.๑) สำนักงานเลขานุการ ตรวจสอบคุณสมบัติองค์กรผู้บริโภค จัดทำบัญชีรายชื่อผู้แทนองค์กรผู้บริโภคเขต และบัญชีรายชื่อผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ
๔.๒) ประกาศบัญชีรายชื่อองค์กรผู้บริโภคที่มีสิทธิคัดเลือกกรรมการ และรายชื่อกรรมการที่มีสิทธิเลือกตั้งต่อสาธารณะ
๔.๓) จัดประชุมผู้แทนองค์กรผู้บริโภคที่ได้รับการขึ้นทะเบียน เพื่อคัดเลือกกันเองให้ได้คณะกรรมการ เครือข่ายองค์กรผู้บริโภค ๑๕ คน โดยคำนึงถึงสัดส่วนหญิงชายที่ใกล้เคียงกัน
(๑) ผู้แทนจากผู้เชี่ยวชาญ
ก. ให้ผู้แทนองค์กรผู้บริโภคที่มาประชุม ลงคะแนนคัดเลือกจากบัญชีรายชื่อผู้เชี่ยวชาญทั้ง ๗ ด้านโดยองค์กรผู้บริโภค มีสิทธิลงคะแนนเลือกผู้เชี่ยวชาญด้านละ ๑ คนเท่านั้น
ข. นับคะแนน และจัดทำบัญชีรายชื่อผู้เชี่ยวชาญที่คะแนนสูงสุดพร้อมบัญชีสำรองด้านละ ๕ คน
ค. ผู้ได้รับคะแนนสูงสุด เป็นผู้ได้รับการคัดเลือกเป็นกรรมการผู้เชี่ยวชาญด้านนั้นๆ
(๒) ผู้แทนจากองค์กรผู้บริโภคระดับเขต
ก. แบ่งกลุ่มผู้แทนองค์กรผู้บริโภคที่มาประชุม ๘ กลุ่ม ตามเขตพื้นที่
ข. ให้ที่ประชุมแต่ละกลุ่มคัดเลือกกันเองให้ได้ผู้แทนองค์กรผู้บริโภคในเขตนั้นๆ จำนวน ๑ คน และขึ้นบัญชีสำรองไว้ ๕ คน
ค. วิธีการคัดเลือก ให้เป็นไปตามที่ประชุมในแต่ละเขตพื้นที่กำหนด
..................................................................................................................
๕. กำหนดการขึ้นทะเบียนและคัดเลือกกันเอง
ระยะเวลา |
การดำเนินการ |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
การดำเนินงานในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการทำหน้าที่คณะกรรมการองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคภาคประชาชน (คอบช.) กรณีมีเหตุอื่นใดนอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในประกาศฉบับนี้ หรือมีข้อโต้แย้งอันเนื่องมาจากการตีความและวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามประกาศนี้ ให้จัดประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการเพื่อวินิจฉัย และคำวินิจฉัยของคณะกรรมการบริหารโครงการถือเป็นที่สุด
ประกาศ ณ วันที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณแววดาว, คุณมลฤดี หรือคุณโสภณ
หมายเลขโทรศัพท์ 02-248-3737 ต่อ 121-123
หรือ 089-764-9153, 086-890-2400
(จันทร์ - ศุกร์ เวลา 09.00 - 17.00 น.)
--------------------------------------------------