2nd benefit

2nd benefit

เตือน! รัฐระวังเสียค่าโง่ ต้องปฏิรูปกฎหมาย ก่อนเปิดสัมปทานปิโตรฯ

สหพันธ์องค์กรผู้บริโภค และมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ชี้ต้องชะลอการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 เผยการออกประกาศแก้ไขเพิ่มเติมภายใต้ พรบ.ปิโตรเลียม 2514 ไม่สามารถบังคับเอกชนได้ เตือนรัฐระวังเสียค่าโง่

วันนี้ (7 ก.พ./มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค) นายอิฐบูรณ์ อ้นวงษา ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย เผยกรณีเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 ฉบับแก้ไข ของรมว.กระทรวงพลังงาน ว่า การออกประกาศเพิ่มเติมของกระทรวงพลังงาน เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 58 ให้สามารถใช้สิทธิเจรจากับเอกชนให้เปลี่ยนจากระบบสัมปทานเป็นระบบแบ่งปันผลผลิตนั้นไม่สามารถเปลี่ยนได้จริง เพราะเป็นการออกประกาศภายใต้ พรบ.ปิโตรเลียม 2514 ที่กำหนดให้ต้องใช้วิธีการสัมปทานเท่านั้น ไม่สามารถแก้ไขในส่วนนี้ได้ อีกทั้งการออกประกาศนี้ยังมีผลผูกพันถึงรัฐบาลในอนาคต ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่งในรัฐบาลที่บอกว่าอยู่ในช่วงการปฏิรูปประเทศไทยและอยู่ในช่วงปฏิรูปพลังงานด้วย แทนที่ประกาศนี้จะแก้ไขปัญหาอาจผูกปมต่างๆ ให้แก้ไขยากยิ่งขึ้น

“เมื่อมีข้อพิพาทกฎหมายยังกำหนดให้ใช้วิธีนุญาโตตุลาการ และถ้ายังระงับไม่ได้เอกชนอาจร้องขอให้ธนาคารโลกมาตั้งอนุกรรมการชี้ขาดได้อีก จะเห็นว่ากฎหมายล้าสมัยมากและไปดึงเอาธนาคารโลกที่เป็นทุนข้ามชาติมาเกี่ยวข้องได้อย่างไรไม่ทราบ และหากปัญหาเกิดขึ้นจริงมีแต่เราจะแพ้ สุดท้ายจะเสียค่าโง่ได้ในอนาคต” นายอิฐบูรณ์ กล่าว

ด้าน น.ส.บุญยืน ศิริธรรม ประธานสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค เรียกร้องให้รัฐบาลชะลอการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 และขอให้ยกเลิกประกาศที่ลงนามโดยนายคุรุจิต นาครทรรพ รองปลัดกระทรวงพลังงานและสมาชิกสภาปฏิรูปด้านพลังงาน (สปช.) เมื่อวันที่ 30 ก.ย. ให้นายกฯ และรัฐมนตรีพิจารณาเรื่องนี้ให้รอบคอบ

“นายกบอกว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องการปฏิรูป และนายกไม่พอใจมากที่ สปช. 130 ท่านขอให้ยุติสัมปทานปิโตรเลียม ดิฉันคิดว่านายกไม่ควรมาทำแบบนี้ เพราะสปช.ไม่ใช่ร้านอาหารตามสั่ง เขามีความเป็นอิสระ” น.ส.บุญยืน กล่าว

 

บทความเนื้อหาใกล้เคียงกัน :

|