เราคือใคร

เราคือใคร

    มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เป็นองค์กรพัฒนาเอกชนสาธารณประโยชน์ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ทำงานมาอย่างยาวนานและเข้มแข็ง ตั้งแต่ปี พ.ศ.2526 ในนามคณะกรรมการประสานงานองค์กรเอกชนเพื่อการสาธารณสุขมูลฐาน (คปอส.) โดยมุ่งเน้นการคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพเป็นหลัก ผลงานในอดีตได้แก่ งานรณรงค์เรื่องการใช้ยาที่เหมาะสม การผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสูตรยาแก้ปวดลดไข้ จากยาสูตรผสมเป็นยาเดี่ยว การคัดค้านสิทธิบัตรยาและการใช้ชื่อสามัญทางยา การรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ในยุคแรก ๆ

    จากบทเรียนการทำงานในนาม คปอส. ทำให้เห็นความสำคัญในการผลักดันให้ผู้บริโภคมีบทบาทในการคุ้มครองตนเอง ในยุคบริโภคนิยม จึงได้จดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคขึ้นในปี พ.ศ. 2539 โดยมีวัตถุประสงค์หลักคือ ส่งเสริมให้ผู้บริโภคได้รับการคุ้มครองตามสิทธิอันพึงมีพึงได้ของผู้บริโภค สนับสนุนและส่งเสริมให้ผู้บริโภคและองค์กรคุ้มครองผู้บริโภคต่าง ๆ ได้มีส่วนในการคุ้มครองผู้บริโภค และยังมีวัตถุประสงค์สำคัญในการส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้บริโภค ด้วยตระหนักดีว่า ข้อมูล ความรู้คืออาวุธสำคัญที่ผู้บริโภคจำเป็นต้องมีเพื่อใช้คุ้มครองตนเองในยุคบริโภคนิยม

วิสัยทัศน์

     เป็นผู้นำการคุ้มครองผู้บริโภคที่สร้างสรรค์  รู้เท่าทันโลก  สู่การบริโภคที่ยั่งยืน

 ยุทธศาสตร์ 

    ยุทธศาสตร์ที่ 1 พัฒนาศักยภาพผู้บริโภคและเครือข่ายองค์กรผู้บริโภค
    ยุทธศาสตร์ที่ 2 พัฒนาและขับเคลื่อนนโยบายคุ้มครองผู้บริโภค
    ยุทธศาสตร์ที่ 3 สื่อสารองค์กรและประยุกต์ใช้เทคโนโลยี
    ยุทธศาสตร์ที่ 4 พัฒนาการพึ่งตนเองอย่างยั่งยืน

แนวคิดในการทำงานคุ้มครองผู้บริโภค


    1. ใช้เงินให้คุ้มค่า (VALUE FOR YOUR MONEY)
ผู้บริโภคจำนวนมากทั้งในอดีตและปัจจุบัน ยังมีความต้องการใช้เงินของตนเองอย่างคุ้มค่า เพื่อให้ได้สินค้าที่ดี ปลอดภัยราคาไม่แพงมากนัก โดยไม่ได้สนใจมากนักว่าสินค้านั้นจะมาจากกระบวนการผลิตแบบใด ใครเป็นผู้ผลิต มีความรับผิดชอบต่อสังคมมากน้อยแค่ไหนอย่างไร ทำให้การดำเนินกิจกรรมและวิธีการทำงานในยุคนี้มักให้ความสำคัญกับการตรวจสอบคุณภาพ ของสินค้าและบริการที่ผู้บริโภคได้ใช้ไป เช่น การทดสอบเครื่องซักผ้า รถยนต์ หรืออาหารต่าง ๆ เป็นต้น เพื่อจะบอกและให้ผู้บริโภคเป็นข้อมูลในการเลือกซื้อ ว่า สินค้าใดดีกว่าสินค้าใด หรือราคาถูกว่าและมีคุณภาพดีกว่า ดังเช่น วารสารคุ้มครองผู้บริโภคในประเทศต่าง ๆ เช่น WHICH ของประเทศอังกฤษ CHOICE ของออสเตรเลีย CONSUMER REPORT ของสหรัฐอเมริกา TESTของอินเดีย หรือนิตยสารฉลาดซื้อ ของมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค


    2. ค่าของเงินและค่าของคน (VALUE FOR MONEY AND ALSO VALUE FOR PEOPLE)
ถือเป็นยุคของการผลักดันให้การบริโภคร่วมกันของผู้บริโภค เป็นตัวกำหนดคุณภาพทางสังคม ซึ่งกลุ่มผู้บริโภค เชื่อว่า พฤติกรรมการซื้อแต่ละครั้ง คือการลงคะแนนให้กับตัวแบบทางเศรษฐกิจ รวมทั้งแบบแผนการผลิตสินค้าแบบใดแบบหนึ่ง และเป็นกลไกผลักดันที่สำคัญในการปฏิรูปเศรษฐกิจสังคมให้เอื้อต่อประโยชน์กับคนส่วนใหญ่ โดยรูปแบบการผลิตและการการบริโภคคำนึงถึงประโยชน์และจะต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและสังคมด้วย เช่น

  • ไม่ซื้อของเนสเล่ท์เพราะใช้วัตถุดิบที่มาจากจีเอ็มโอหรือการปฏิบัติแบบสองมาตรฐานของบริษัทนี้
    ในกรณีไม่ขายผลิตภัณฑ์มีมีจีเอ็มโอในกลุ่มประเทศอียูและสวิสเซอร์แลนด์ แต่ยืนยันจะจำหน่ายในประเทศไทย หรือ
  • การไม่ซื้อสินค้าของบริษัท ABBOTT ที่ไร้จริยธรรมในการค้าโดยการถอนการขึ้นทะเบียนยากับ อย. หลังจากประเทศไทยประกาศใช้มาตรการบังคับใช้สิทธิ (CL)
  • การรณรงค์ไม่ซื้อสินค้าของแกรมมี่ จากปรากฏการณ์จอดำ

3. ลดการบริโภค (SUSTAINABLE CONSUMPTION & CONSUMER LIFE STYLE)
การเป็นผู้บริโภคสีเขียว (Green Consumers) มิใช่เป็นเพียงหาของสีเขียวไว้ใช้สอยแต่ต้องประมาณการบริโภคและทราบว่า การบริโภคทุกอย่างส่งผลกระทบต่อทั้งตนเองและสังคม ทำให้กิจกรรมที่ดำเนินการมุ่งไปสู่เป้าหมายการบริโภคแต่พอเพียง การลดการบริโภค เช่น มีกลุ่มรณรงค์ให้มีวันหยุดซื้อของ (Day Buy Nothing Day) การรณรงค์สัปดาห์หยุดดูโทรทัศน์เพราะเชื่อว่าโทรทัศน์เป็นเครื่องมือของบริโภคนิยมที่ส่งเสริมให้เกิดการบริโภคแบบไร้ขีดจำกัด

 

Tags: เราคือใคร

พิมพ์ อีเมล