2nd benefit

2nd benefit

แนะผู้บริโภคไม่ต้องซ่อมบ้านเอง หากไม่ได้ทำผิด ร้องโครงการรับผิดชอบได้ภายใน 1 ปี

howto buyhomeจากกรณีที่มีผู้บริโภคซื้อบ้านจากโครงการในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อจะเข้าไปพักอาศัยกลับพบว่ามีเห็ดและเชื้อราขึ้นที่ผนังพื้นห้อง เมื่อแจ้งไปยังโครงการกลับต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการแก้ไขบ้านนั้น

นายโสภณ หนูรัตน์ เลขานุการคณะอนุกรรมการด้านที่อยู่อาศัย คณะกรรมการองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค ภาคประชาชน ให้สัมภาษณ์ว่า กรณีเช่นนี้ ทางโครงการควรรับผิดชอบซ่อมแซมบ้านให้กับผู้บริโภคให้ใช้งานได้ตามปกติ โดยผู้บริโภคไม่ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการซ่อมแซมนั้น เพราะความผิดไม่ได้เกิดจากตัวผู้บริโภคที่ซื้อบ้าน ทั้งนี้ ปัญหาความชื้นของตัวบ้านนั้นไม่สามารถตรวจสอบ หรือเห็นได้ตอนเซ็นสัญญาก่อนรับมอบบ้าน ดังนั้นจะให้ผู้บริโภคที่ซื้อบ้านรับผิดชอบไม่ได้

“การซื้อขายบ้าน คนขายไม่ใช่เพียงแต่ขายบ้าน รับเงินแล้วจบ แต่มีหน้าที่ต้องส่งมอบบ้านในสภาพที่ใช้อยู่อาศัยได้จริงด้วย เพราะผู้บริโภคซื้อบ้านเพื่ออยู่อาศัย หากสภาพบ้านชำรุด หรือไม่ปลอดภัย ผู้บริโภคก็มีสิทธิบอกเลิกสัญญา หรือให้ผู้ประกอบการแก้ไขดูแล แต่หากโครงการแก้ไขไม่ได้ ก็ต้องรับซื้อบ้านคืน” นายโสภณ กล่าว

เลขานุการคณะอนุกรรมการฯ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ผู้บริโภคในฐานะผู้ซื้อ เมื่อพบว่าทรัพย์สินที่ซื้อขายชำรุดบกพร่อง มีสิทธิเรียกร้องให้ผู้ขายแก้ไขความชำรุดบกพร่อง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 472 โดยต้องฟ้องคดีภายใน 1 ปี นับตั้งแต่วันที่พบเห็นความชำรุดบกพร่อง ดังนั้น ผู้บริโภคไม่ควรนิ่งนอนใจ หากพบว่าบ้านที่ซื้อมีสภาพผิดปกติ หรือพบความชำรุดบกพร่อง ผู้บริโภคต้องรีบทำหนังสือแจ้งให้โครงการดำเนินการแก้ไขโดยเร็ว เช่น ภายใน 15 วัน แต่หากโครงการไม่ดำเนินการแก้ไข ให้ทำเรื่องร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) หรือมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เพื่อดำเนินการช่วยเหลือในการเจรจาไกล่เกลี่ย รวมถึงฟ้องเป็นคดีต่อศาลเพื่อคุ้มครองสิทธิต่อไป