2nd benefit

2nd benefit

คอบช.ส่งจดหมายเปิดผนึกถึง กสทช. และผู้ประกอบการโทรคมนาคม ลดราคา 30 %

630416 2จากกรณี กสทช.แจกเน็ตฟรี 10 GB คณะอนุกรรมการด้านสื่อและโทรคมนาคม องค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคภาคประชาชน (คอบช.) ขอเสนอว่า คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ควรดำเนินการในฐานะองค์กรกำกับดูแลโดตรงเพื่อขอความร่วมจากภาคเอกชนให้ประกาศมาตรการร่วมกันที่ชัดเจนเป็นรูปธรรมในการช่วยเหลือผู้บริโภคในภาวะวิกฤตินี้ โดยไม่เลือกปฏิบัติ เน้นความทั่วถึง เท่าเทียม และ ไม่ทิ้งประชาชนกลุ่มที่ลำบากไว้ข้างหลัง คนไทยทุกคนจะต้องเข้าถึงการสื่อสารขั้นพื้นฐานในภาวะวิกฤติระดับชาติเช่นนี้

คอบช. แถลงการณ์คัดค้าน มติ กสทช. กรณีปิดสถานีโทรทัศน์ Voice TV เป็นเวลา 7 วัน

press iccp 28mar2017

จากการที่ กสทช.มีมติปิดสถานีโทรทัศน์ว๊อยซ์ทีวีเป็นเวลา 7 วันนั้น คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคสื่อและโทรคมนาคม คณะกรรมการองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค ภาคประชาชน (คอบช.) ขอคัดด้านการกระทำดังกล่าว เนื่องจากเป็นการใช้อำนาจเกินกว่าเหตุ และนอกจากเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชนแล้ว ยังถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชน ที่รับรองไวัในรัฐธรรมนูญทุกๆ ฉบับที่ผ่านมาด้วยเช่นกัน

แม้ กสทช.จะมีอำนาจที่จะเพิกถอนใบอนุญาตการประกอบกิจการโทรทัศน์และวิทยุได้ แต่การมีมติใดๆ ก็ตามของ กสทช.ควรเป็นการใช้มติที่เคารพสิทธิของผู้บริโภคข้อมูลข่าวสารซึ่งเป็นเจ้าของทรัพยากรคลื่นความถี่ตาม รัฐธรรมนูญปี 2550 การปิดสถานีโทรทัศน์ทั้งสถานีเพียงเพราะว่ามีรายการที่มีผู้ร้องเรียนจาก คสช.เป็นการใช้อำนาจเกินกว่าเหตุ ทั้งนี้เนื่องจากว่าที่ผ่านมามีผู้บริโภคร้องเรียนรายการต่างๆ ทั้งวิทยุและโทรทัศน์เข้ามาเป็นจำนวนมาก มากว่าห้าปี โดยที่มีหลายรายการละเมิดสิทธิผู้บริโภค อีกหลายรายการกระทำผิดกฎหมาย พ.ร.บ.กสทช. อย่างมีหลักฐานเป็นที่ประจักษ์ แต่ กสทช.ไม่เคยใช้อำนาจเพิกถอนใบอนุญาต แต่ให้ใช้กระบวนการพิจารณาเป็นรายการแต่ละรายการไป อีกประการหนึ่ง ยังมีเรื่องร้องเรียนจำนวนมากที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสาธารณะ แต่ กสทช. ยังไม่ได้นำมาพิจารณา

คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคสื่อและโทรคมนาคม คณะกรรมการองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค ภาคประชาชน (คอบช.) ขอเรียกร้องให้

1. กสทช. ควรกำหนดมาตรฐานในการกำกับดูแลรายการโดยให้เกิดความเท่าเทียมและเป็นธรรมในการพิจารณาข้อร้องเรียนเรื่องเนื้อหารายการ และการกำหนดโทษ เป็นรายการแต่ละรายการ
2. กสทช. เพิกถอนมตินี้ เพื่อคืนสิทธิในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชนโดยทันที
3. กสทช. เร่งกระบวนการส่งเสริมการกำกับดูแลกันเอง และส่งเสริมความเข้มแข็งผู้บริโภคสื่อ

ทั้งนี้เพื่อดำรงไว้ซึ่งความศรัทธาของสาธารณะชนที่มีต่อ กสทช.ในฐานะองค์กรกำกับดูแลสื่อ

คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคสื่อและโทรคมนาคม
คณะกรรมการองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค ภาคประชาชน (คอบช.)

เครือข่ายผู้บริโภคเสนอ กสทช. คุมค่าโทรตั้งแต่นาทีแรก เน้นคิดตามจริงเป็นวินาที

590714smartphone for web

จากกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ออกประกาศเรื่องอัตราค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ให้บริการบนคลื่นความถี่ 2.1 จิกะเฮิรตซ์ (GHz) ให้คิดค่าโทรไม่เกิน 0.82 บาท/นาที ส่วนค่าบริการประเภทข้อมูลหรืออินเทอร์เน็ตไม่เกิน 0.28 บาท/เมกะไบต์ (MB) ขณะที่คลื่นความถี่ 1800 และ 900 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) ให้คิดค่าโทรต่ำกว่า 0.69 บาท/นาที ส่วนค่าบริการประเภทข้อมูลให้คิดต่ำกว่า 0.26 บาท/เมกะไบต์ (MB) นั้น

     นายโสภณ หนูรัตน์ นักวิชาการด้านกฎหมาย มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และเลขานุการ คณะอนุกรรมการด้านสื่อและโทรคมนาคม คณะกรรมการองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคภาคประชาชน (คอบช.) ให้สัมภาษณ์ว่า สนับสนุน กสทช.ในการดำเนินงานเรื่องนี้ เพราะที่ผ่านมาผู้บริโภคถูกเอาเปรียบมาโดยตลอด การคิดคำนวณค่าโทรศัพท์ ผู้ประกอบการปัดเศษเป็นนาที ไม่ได้คิดตามการใช้งานจริง ซึ่งมีส่วนต่างที่ผู้บริโภคต้องจ่าย ดังนั้น เครือข่ายผู้บริโภคจึงเรียกร้องการคิดค่าบริการตามจริงให้สอดคล้องกับการใช้งาน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม และการออกแนวทางเช่นนี้มาจะมีประโยชน์กับผู้บริโภค เพราะที่ผ่านมา กสทช.ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลยังไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องเหล่านี้เท่าที่ควร

     “แม้ผู้ประกอบการจะบอกว่าราคาถูกลงกว่าเมื่อก่อน แต่ภายใต้ราคาที่ถูกลงก็ยังมีการเอาเปรียบอยู่ และผู้บริโภคก็สับสนในการเก็บค่าบริการมาก คือพอไม่มีอัตราอ้างอิงก็จะคิด 1.50 บาท บ้าง 2 บาท บ้าง เป็นการกำหนดจากผู้ประกอบการฝ่ายเดียว อำนาจต่อรองของผู้บริโภคมีน้อยกว่า การที่ กสทช.ออกประกาศมาโดยมีเงื่อนไขการคิดค่าโทรเป็นวินาทีจะช่วยให้เกิดสมดุลในเรื่องอำนาจต่อรองของผู้บริโภค เกิดความเสมอภาคในการใช้บริการ และได้ราคาที่เป็นธรรม” เลขานุการคณะอนุกรรมการด้านสื่อและโทรคมนาคมกล่าว

อย่างไรก็ตาม คอบช. ได้มีหนังสือเรื่อง “ความเห็นต่อแนวทางกำกับดูแลอัตราค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ฯ” ต่อ กสทช. จำนวน 5 ข้อ ดังนี้

1) เห็นด้วยที่กำหนดแนวทางกำกับดูแลอัตราค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่บนคลื่นความถี่ 2.1 GHz, 1800 MHz และ 900 MHz ด้วยการระบุเพดานอัตราค่าบริการของบริการแต่ละประเภท ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้บริการเข้าใจได้ง่ายและตรวจสอบได้ รวมถึงกำหนดอัตราค่าบริการข้อมูลเป็นหน่วย GB ด้วย

2) ให้ กสทช.ตรวจสอบรายการส่งเสริมการขายระบบเติมเงินทั้งหมด เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางกำกับดูแลอัตราค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่อย่างเคร่งครัด

3) กสทช.ควรสร้างความตระหนักรู้ให้กับผู้บริโภค ทั้งเรื่องของคลื่นความถี่ เพื่อเป็นข้อมูลให้ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกบริการ รวมทั้งแจ้งอัตราค่าบริการที่ กสทช.ดูแล เพื่อให้ผู้บริโภคตรวจสอบบริการของตัวเอง

4) การให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในปัจจุบัน ผู้ให้บริการใช้คลื่นความถี่หลายย่านคลื่นผสมกัน โดยบริการที่ใช้คลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz และ 900 MHz ในการให้บริการร่วมด้วย จะต้องคิดค่าบริการตามอัตราเพดานของคลื่นความถี่ 1800 MHz และ 900 MHz

5) เห็นด้วยกับการกำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตต้องคิดค่าบริการตามการใช้งานจริงสำหรับบริการเสียงในหน่วยวินาที และ กสทช.ควรมีแผนเพื่อยุติการคิดค่าบริการแบบปัดเศษวินาที และควรกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดการคิดค่าบริการแบบปัดเศษเป็นนาที เช่น 3 เดือน หรือ 6 เดือน ก่อนเข้าสู่การคิดค่าบริการตามจริงทั้งระบบ

ภาพประกอบ: pexels.com