2nd benefit

2nd benefit

คอบช. ยื่นจดหมายนายกฯตู่ วอนยุติแก้ ก.ม.บัตรทอง ที่ไม่คุ้มครองผู้บริโภค

iccp news banner01


         เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2560 เวลา 15.00 น. คณะกรรมการองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค ภาคประชาชน (คอบช.) มีมติในที่ประชุมทำหนังสือเปิดผนึกถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอให้หยุดกระบวนการแก้ไขกฎหมายบัตรทองที่ไม่คุ้มครองผู้บริโภค บังคับผู้ป่วยร่วมจ่าย ณ หน่วยบริการ ทำลายหลักการระบบหลักประกันสุขภาพฯ


         ผศ.จุมพล ชื่นจิตต์ศิริ ประธานฯ (คอบช.) กล่าวว่า “ยกตัวอย่างกรณีร้องเรียนของผู้ป่วยที่เข้ารับการผ่าตัดหลัง ถูกเรียกเก็บเงินร่วมจ่าย ณ หน่วยบริการสูงถึง 35,000 บาท ซึ่งผู้ป่วยต้องควักจ่ายก่อนถึงจะได้เข้ารับการผ่าตัดหลัง นับเป็นความไม่เท่าเทียมด้านการบริการสาธารณสุข ซึ่งหากเป็นโรคเรื้อรังหรือโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูงก็อาจทำให้ครอบครัวเป็นหนี้หรืออาจล้มละลายได้ และการแก้ไขเนื้อหาร่างกฎหมาย ก็ยังไม่ครอบคลุมถึงคนไทยที่รอพิสูจน์สถานะบุคคล คนไทยที่พลัดถิ่นและตกสำรวจ รวมทั้งยังตัดประเด็นเนื้อหาการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนออกไปด้วย”


         ทั้งนี้ โดยการพิจารณาครั้งล่าสุดของคณะกรรมการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (ฉบับที่...) พ.ศ. .... ยังมีมติเพิ่มสัดส่วนผู้ให้บริการเข้าไปในคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และคณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธาณสุขอีกด้วย โดยคณะกรรมการองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค ภาคประชาชน ได้เสนอข้อคิดเห็นต่อนายกรัฐมนตรี ในประเด็นการแก้ไขกฎหมายดังกล่าว ดังนี้

1. การแก้ไขกฎหมายบัตรทอง จะต้องไม่ทำลายหลักการสำคัญของระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

2. การแก้ไข เสนอ หรือยกเลิกกฎหมายต้องวิเคราะห์ถึงผลกระทบต่อประชาชนทุกกลุ่มอย่างชัดเจน ตามมาตรา 77 แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 โดยเฉพาะภาระทางการเงินของครัวเรือน

3. ควรแก้ไขกฎหมายโดยให้ประชาชนได้ประโยชน์ ลดความเหลื่อมล้ำของระบบบัตรทอง ระหว่างสวัสดิการข้าราชการ ประกันสังคม และบัตรทอง โดยรับรองสิทธิประชาชนด้านการบริการสาธารณสุขที่มีมาตรฐานเดียวสำหรับทุกคน ผู้ประกันตนไม่ต้องจ่ายสมทบด้านสุขภาพ และนำเงินสมทบส่วนสุขภาพไปเพิ่มในสัดส่วนของบำนาญชราภาพให้ผู้ประกันตนมีความมั่นคงในบั้นปลายชีวิตมากขึ้น

4. ตัดทิ้งการให้อำนาจกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติที่จะเก็บเงินร่วมจ่าย ณ หน่วยบริการ และสนับสนุนให้เก็บเงินก่อนป่วยในรูปแบบภาษี หรือจัดเก็บภาษีเพิ่มเติมจากบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ภาษีน้ำตาล หรือภาษีเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ

5. สนับสนุนให้ระบบบัตรทองสามารถจัดซื้อยาได้เอง ถ้ายังไม่มีทางออกที่ดีกว่าปัจจุบัน

6. ควรสนับสนุนให้เกิดความเป็นธรรมต่อการกระจายบุคลากรด้านสาธารณสุขในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ไม่ควรมีการแยกเงินเดือนบุคลากร ซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหาการกระจายบุคลากรที่ไม่เป็นธรรม

7. จัดสมดุลโครงสร้างการบริหารจัดการระบบบัตรทอง โดยเพิ่มสัดส่วนผู้ประกอบวิชาชีพ ผู้รับบริการ ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค เครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ และหน่วยรับเรื่องร้องเรียนที่เป็นอิสระจากผู้ถูกร้องเรียน ตามมาตรา 50(5) เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการทั้งสองคณะมีประสิทธิภาพ


     ทั้งนี้ คอบช.ได้เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ยุติกระบวนการแก้ไขบัตรทอง และเริ่มกระบวนการทำความเข้าใจเนื้อหาการแก้ไข โดยเปิดรับฟังความเห็นและสร้างการมีส่วนร่วมจากทุกฝ่าย

คลิกที่ลิ้งก์ด้านล่าง เพื่อดาวน์โหลดจดหมายเปิดผนึก