สารีชี้ ข้อตกลง กสทช.และ 5 ค่ายมือถือ ไม่ตรงกับที่ สปช. เสนอ เน้นต้องปรับโครงสร้างพื้นฐานคิดค่าใช้บริการตามจริงเป็นวินาทีทุกโปรโมชั่น เดินหน้าลุยเอง 13 ม.ค.นี้

 

หลังมติของ สปช. เห็นด้วยกับการคิดค่าโทรตามจริงเป็นวินาที วันนี้ (7 ม.ค.) กสทช.เรียกผู้ประกอบการมือถือ 5 ราย ได้แก่ เอไอเอส ทรู ดีแทค ทีโอที และ กสท. เพื่อออกมาตรการบังคับใช้การคิดค่าโทรตามจริงเป็นวินาที แทน การปัดเศษขึ้นเป็นนาทีภายใน 1 มีนาคมนี้ ในส่วนผู้ใช้บริการที่ติดโปรโมชั่นรายปี กสทช.สั่งให้ผู้ประกอบการกลับไปพิจารณาให้ผู้ใช้บริการสามารถเปลี่ยนโปรโมชั่นได้ทันที ขณะที่การปรับราคาค่าโทรไม่เกินนาทีละ 99 สตางค์ต่อนาทีต้องใช้เวลา 6 เดือน ถึง 1 ปี โดยผู้ใช้บริการสามารถเช็คการใช้งานในหน้าเว็บไซต์ของแต่ละค่ายมือถือได้

นายฐากร ตัรฑสิทธิ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เผยว่า คณะทำงานศึกษาความเป็นไปได้เรื่องการคิดค่าบริการโทรศัพท์มือถือ เพื่อออกมาตรการบังคับใช้การคิดค่าโทรตามจริงเป็นวินาที โดยข้อสรุปที่ได้จะนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) และนำเข้าสู่คณะกรรมการ กสทช. เพื่อรับฟังความคิดเห็นสาธารณะต่อไป คาดว่าจะประกาศใช้ได้ภายใน 1 มีนาคม 2558

 

ขณะที่ นพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการ กสทช.ด้านคุ้มครองผู้บริโภคและส่งเสริมสิทธิเสรีภาพของประชาชน เปิดเผยว่า ในการประชุมครั้งนี้ยังไม่มีการพูดถึงมาตรการกำกับดูแลที่ กสทช. จะใช้บังคับผู้ประกอบการ ในที่ประชุมมีการพูดถึงการปรับทั้งระบบอุตสาหกรรมให้เลิกคิดค่าบริการแบบปัดเศษของวินาทีเป็นนาที แต่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังไม่ตอบรับ เพียงออกโปรโมชั่นใหม่คิดค่าบริการตามจริงเป็นวินาที ซึ่งมีบริษัททีโอทีทำเช่นนั้นอยู่แล้ว หากรายไหนทำไม่ได้ก็สามารถไปศึกษาดูงานที่ทีโอทีได้ แต่ผู้ให้บริการส่วนใหญ่อ้างว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะกระทบโครงสร้างราคาค่าบริการคล้ายกับจะบอกว่าจะทำให้ผู้ให้บริการต้องคิดค่าบริการแพงขึ้น ซึ่งไม่เป็นความจริง แต่อาจกระทบรายได้ของบริษัทนั้นเป็นได้

 

นพ.ประวิทย์ เพิ่มเติมว่า ต้องระวังการทำเงื่อนไขของโปรโมชั่นแบบไม่จูงใจให้เลือกใช้ แล้วนำไปสรุปว่า ผู้บริโภคไม่ได้ต้องการเรื่องดังกล่าวจริง ดังนั้นหลังจากมีมาตรการขั้นต้นแล้ว จะต้องเร่งให้มีมาตรการและความเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ตามมาอีกด้วย ซึ่งมาตรการที่สำคัญคือ โปรโมชั่นใหม่ที่จะออกใหม่ทั้งหมดก็จะต้องไม่มีการปัดเศษอีกแล้ว ขณะเดียวกันก็ต้องมีการกำหนดกรอบเวลาของโปรโมชั่นเก่าที่ยังมีการคิดค่าบริการแบบปัดเศษจากวินาทีเป็นนาทีในทุกๆ การโทร ให้ชัดเจนว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อไร

 

ด้าน นางสาวสารี อ๋องสมหวัง ในฐานะประธานกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวถึงการประชุมทำความร่วมมือระหว่าง กสทช.กับผู้ให้บริการมือถือว่า ขอขอบคุณ กสทช. และผู้ให้บริการทุกรายที่ให้ความสำคัญกับปัญหาดังกล่าวและจัดเวทีความมือร่วมภายใน 1 วันหลังจากมีมติจาก สปช. ที่จะเริ่มคิดค่าใช้บริการตามจริงเป็นวินาทีภายในวันที่ 1 มี.ค. แต่ก็ยังไม่ตรงกับที่ สปช. ได้เสนอไว้ว่า ควรมีการปรับโครงสร้างพื้นฐานคิดค่าใช้บริการตามจริงเป็นวินาทีทุกโปรโมชั่น อย่างไรก็ตามทางคณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภคได้มีการหารือร่วมกับคณะกรรมาธิการด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดเวทีความร่วมมือเรื่องดังกล่าวในวันอังคารที่ 13 ม.ค.นี้ โดยเชิญ กสทช. ผู้ให้บริการ และผู้บริโภค เข้าร่วม 

 

ในประเด็นการคิดค่าบริการนาทีละ 99 สตางค์นั้น ประธานกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ที่มีประกาศเรื่อง อัตราขั้นสูงของค่าบริการโทรคมนาคมสำหรับการโทรศัพท์เคลื่อนที่ประเภทเสียงภายในประเทศ พ.ศ. 2555 บังคับใช้ตั้งแต่ 4 เม.ย. 55 นั้น เป็นการคุ้มครองผู้ใช้บริการบนโครงข่าย 2G เท่านั้น ไม่ได้ครอบคลุมผู้ใช้บริการบนโครงข่าว 3G ซึ่งคณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภคเห็นว่านอกจากปัญหาดังกล่าวแล้วผู้บริโภคยังเจอปัญหาอีกหลายประการ และเห็นถึงความสำคัญในการแก้ไขจึงได้ร่วมกับคณะกรรมาธิการด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือแนวทางแก้ไขให้ผู้บริโภคต่อไป

 

ภาพจาก : telecommunicationnew.blogspot.com

 

บทความเนื้อหาใกล้เคียงกัน :

|