คณะกรรมการองค์การอิสระฯ จี้ กสทช. พบผู้บริโภค ซิมดับ หลังใช้ประกาศเยียวยามาแล้ว 60 วัน
คณะกรรมการองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค ภาคประชาชน ได้มีการติดตามการคุ้มครองผู้บริโภคหลังจาก กสทช. ออกประกาศเยี่ยวยาคลื่น 1800 MHz พบปัญหาซิบดับ ยังเกิดขึ้นกับผู้ใช้บริการ...
วันที่ 14 พ.ย. ผศ.รุจน์ โกมลบุตร กรรมการองค์กรอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค ผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อและโทรคมนาคม ได้แถลงข่าวร่วมกับ สหพันธ์องค์กรผู้บริโภค และ สมาคมพิทักษ์สิทธิผู้บริโภคจังหวัดสระบุรี หลังเสร็จสิ้นเวทีเสวนา 60 วัน ประกาศเยียวยาคลื่น 1800 MHz ผู้บริโภคได้อะไร ?”ซึ่งจัดขึ้นที่สมาคมนักข่าวฯ
ในเวทีเสวนาได้เชิญตัวแทนจากหลายฝ่ายมาร่วมเสวนาถึงสถานการณ์ปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้บริโภค โดยมี คุณฐากร ตันฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช., คุณบุญยืน ศิริธรรม ประธานสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค, ดร.ปิยบุตร บุญอร่ามเรือง มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และ คุณอำมร บรรจง ตัวแทนผู้บริโภคที่ประสบปัญหาจากการใช้บริการ ซึ่งมี คุณกรรณิการ์ กิจติเวชกุล ผู้ดำเนินรายการวิทยุ เช้าทันโลก FM 96.5 เป็นผู้ดำเนินรายการ
ซึ่งประเด็นปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับผู้บริโภคหลังจากที่ กสทช. มีมติออกประกาศเรื่อง มาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการเป็นการชั่วคราวในกรณีสิ้นสุดการอนุญาต สัมปทาน หรือสัญญาการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ พ.ศ. 2556 เมื่อวันที่ 16 ส.ค.56 ทั้งนี้คณะกรรมการองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค มีข้อเสนอต่อ กสทช. ดังนี้
1.ขอให้ กสทช. ติดตามการบังคับใช้ประกาศอย่างเคร่งครัด เพราะภายหลังจากที่ได้ออกประกาศไปแล้วนั้ ยังพบปัญหาเกิดขึ้นกับผู้บริโภค เช่น ผู้ประกอบการยังมีการขยายฐานผู้ใช้บริการคลื่น 1800 MHz รวมทั้งให้ กสทช. เพิ่มการประชาสัมพันธ์การโอนย้ายผู้ใช้บริการแบบสมัครใจ พร้อมทั้งควบคุมคุณภาพการให้บริการ และต้องมีการคืนเงินคงเหลือเมื่อผู้บริโภคยุติการใช้บริการ
2.กสทช. ต้องกำกับดูแลการจัดการคลื่นเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ (ซิมดับ) ซ้ำอีก และควรเร่งให้มีจัดให้มีการประมูลก่อน ถึงวันหมดอายุสัญญาสัมปทานในปี 2558
3.คณะกรรมการฯ สนับสนุนการฟ้องร้องของสมาคมพิทักษ์สิทธิผู้บริโภค จ.สระบุรี เนื่องจากเห็นว่าประกาศฉบับนี้ เป็นไปเพื่อการรักษาหลักกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และเจตนารมย์ของรัฐธรรมนูญ รวมทั้งรักษาประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นสำคัญ
4.ให้ กสทช. ถอนฟ้องนักวิชาการและสื่อมวล ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ปัญหากรณีคลื่นสัญญา 1800 MHz เพราะเป็นการวิพากษ์วิจารณ์โดยใช้หลักสุจริต เพื่อประโยชน์ของสังคม
สำหรับเนื้อหาการพูดคุยในเวทีเสวนา นางสาวสารี อ๋องสมหวัง ในฐานะ อนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคมและ เลขานุการ คณะกรรมการฯ ได้กล่าวถึงปัญหาการร้องเรียนจากรณีคลื่น 1800 จำนวน 50 เรื่องโดยแบ่ง 5 กรณี 1)ปัญหาการโอนย้าย 2)สิทธิประโยชน์ ลดลงเมื่อถูกย้ายไปเครือข่ายใหม่ 3) บริษัทไม่คืนเงินคงเหลือในระบบ 4) เงินคงเหลือในระบบ ไม่โอนไปยังเครือข่ายใหม่ 5) ไม่สามารถใช้งานโทรศัพท์ได้
ด้าน นางอำมร บรรจง ผู้บริโภคที่ประสบปัญหาจากการใช้บริการของทรูมูฟ กล่าวว่า ตนเองก็ได้ติดตามข้อมูลเรื่องหมดอายุสัมปทานคลื่น 1800 MHz ว่าสามารถใช้งานได้อีก 1 ปี แต่ก็ได้รับการแจ้งทางโทรศัพท์จากคอลเซ็นเตอร์ ว่าต้องไปดำเนินการย้ายข่ายภายใน 3 วัน ถ้าไม่ดำเนินการซิมจะดับ แล้วก็ดับจริง ๆ ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับเราคือไม่มีใครสามารถติดต่อสื่อสารกับเราได้ รวมทั้งญาติพี่น้องของเราด้วย นอกจากนี้ขั้นตอนการแก้ปัญหาให้กับเรายังมีความยุ่งยากอีก
นางสาวบุญยืน ศิริธรรม ประธานสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค กล่าวว่า การออกประกาศของ กสทช. ที่บอกว่าออกเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค จริงผู้บริโภคได้อะไรตามที่ประกาศกำหนด เช่น ข้อ 4 มีการต้องจัดทำแผนคุ้มครองผู้บริโภค เสนอให้ กสทช.เห็นชอบภายใน 15 วัน หลังจากประกาศบังคับใช้ ต่อด้วยข้อ 5 ที่บอกว่าแผนนั้น ต้องมีสาระสำคัญอะไรบ้าง ถึงวันนี้แผนนั้นไม่เคยมีการนำเสนอความคิดเห็นต่อองค์กรที่ทำงานคุ้มครองผู้บริโภค เมื่อไม่รู้ว่าแผนเป็นอย่างไร ผู้บริโภคจะรู้ว่าถูกหรือไม่ถูกละเมิดสิทธิได้อย่างไร มาตรการและขั้นตอนการโอนย้าย รวมถึงแผนการส่งเสริมในการคงสิทธิเลขหมายมีอะไรบ้าง ผู้บริโภคไม่ทราบเลย ดังนั้นการออกประกาศฉบับนี้ จึงเป็นเพียงการเอาตัวรอดของ กสทช. ไม่ใช่เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคอย่างชื่อของประกาศฉบับนี้ เมื่อองค์กรที่มีหน้าที่กำกับกระทำตัวเยี่ยงนี้ องค์กรผู้บริโภค ก็ต้องพึ่งอำนาจศาล เพื่อหาทางออกในเรื่องนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ทางด้าน ดร.ปิยบุตร บุญอร่ามเรือง อาจารย์มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ตรรกะที่สำคัญคือละเมิดสิทธิผู้ประกอบการไม่ได้เพราะเขามีสัญญาสัมปทานอยู่ ซึ่งการอธิบายแบบนี้มันจะกลายเป็นการคุ้มครองผู้ประกอบการ แต่การไปพูดออกแนวว่าผู้ประกอบการยังมีสิทธิอยู่ เช่น สัญญาเช่า หรือสัญญาจะซื้อจะขาย มันก็ต้องมีการกำหนดวันเป็นเรื่องปกติ เพราะหากมีกำหนดไว้ว่าต้องออกจากบ้านวันที่เท่าไหร่ ก็ต้องออก จะบอกว่ายังขนของออกไม่หมด ต้องขยายไปก่อน ตรรกะแบบนี้ใช้อธิบายไม่ได้
อย่างไรก็ดีประกาศฉบับนี้พบว่า คำอธิบายหนึ่งของสำนักงานฯ ที่รับฟังความคิดเห็น มีอันหนึ่งที่บอกว่าหากครบ 15 ก.ย. 2556 ยังไม่ทำ จะมีความผิด ซึ่งการสั่งให้ยุติใช้คลื่นเป็นอำนาจของ กสทช.โดยตรง เพียงแต่ว่าจะทำหรือไม่ทำ ความผิดพลาดที่เกิดขึ้น อาจมาจากสาเหตุอื่น ที่ไม่ใช่เฉพาะจากคลื่น 1800 จะเห็นว่ามันก็เป็นปัญหาทั่วไปที่เกิดขึ้นกับทุกคลื่น แต่พอแยกออกมาเป็นปัญหา 1800 มันทำให้เข้าใจยาก ส่วนเรื่อง activate หากเราไม่ได้มองว่าเป็น 1800 แต่มองว่าเป็น network อะไร จะเข้าใจง่ายกว่านี้ ในอนาคต ข้อใหญ่ที่ผมเห็นว่าสำคัญมากคือ ทำอย่างไรให้การประมูลชัดเจน และข้อ 3 ของประกาศ พูดว่า เมื่อสิ้นสุดสัญญาสัมปทาน หากสร้างบรรทัดฐานการนับสัญญาสัมปทานแบบนี้ มันจะกระทบถึงสัญญาสัมปทานอื่น ๆ ด้วย มิใช่เพียงเรื่องโทรคมนาคม ควรจะให้เป็นแบบนี้เฉพาะกรณีทรู มูฟ และเนื้อหามันส่อไปถึงว่าเราจะไม่เตรียมการล่วงหน้า ซึ่งมันไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น ข้อ 5 กับ 7 ที่บอกว่าแผนคุ้มครอง ทั้งหมดนี้ยังไม่เห็นเนื้อหา ซึ่งสองข้อนี้เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ประกาศนี้ไม่ใช่สัญญาสัมปทาน
ด้าน นายฐากร ตันฑสิทธิ์ เลขาธิการกสทช. ได้กล่าวว่าการออกประกาศฉบับนี้ไม่ใช่เป็นการต่ออายุสัมปทานให้กับผู้ประกอบการแน่นอน แต่มาตรการที่ออกมาคุ้มครองผลประโยชน์ของประชาชน และ ผลประโยชน์ของรัฐ อย่างไรก็ดี ทางสำนักงาน กสทช. ได้มีการตั้งคณะทำงานติดตามผลการดำเนินงานทุก 1 สัปดาห์ และจัดทำรายงานเสนอต่อ กทค.ในขั้นตอนต่อไป อย่างไรก็ดีในการดำเนินงานก็ยังมีปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงานอยู่ เช่น การโอนย้ายที่ทำได้ล่าช้า ประชาชนไม่ประสงค์โอนย้ายแต่มีการโอนย้ายเกิดขึ้น ซึ่งเราก็ต้องรับมาเพื่อดำเนินการให้ทันท่วงที
อย่างไรก็หลังการเสวนา ได้มีการทดลองเปิดใช้ซิมแบบเติมเงินในคลื่น 1800 MHz ของทรู ที่เพิ่งซื้อมา พบว่ายังสามารถเปิดใช้งานได้อยู่ ทั้งๆ ที่ในประกาศห้ามไม่ให้เปิดรับผู้ใช้บริการรายใหม่