2nd benefit

2nd benefit

'คนรักหลักประกันสุขภาพ' จวก! แก้ ก.ม.บัตรทองไร้ธรรมาภิบาล ปิดช่องประชาชน ไม่ต่างจ้องล้มระบบบัตรทอง

17333 

วันนี้ (6 มิ.ย.60) ตัวแทนกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพกว่า 1,000 คนทั่วประเทศรวมตัวกันที่หน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นจดหมายเรียกร้องไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้หยุดกระบวนการแก้ไข ปรับปรุง พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545  

          นางเตือนใจ สมานมิตร ตัวแทนกลุ่มคนรักหลักประกันฯ ภาคกลาง กล่าวว่า การแก้กฎหมายครั้งนี้เห็นชัดว่าพยายามแก้กฎหมายเพื่อที่จะจำกัดช่องทางในการเข้าไปมีส่วนร่วมของภาคประชาชน เช่น การไม่เปิดโอกาสให้องค์กรชุมชน องค์กรเอกชนที่ไม่แสวงหาผลกำไรรับงบประมาณจากกองทุนในการร่วมจัดบริการ แต่กลับแก้กฎหมายเพื่อเอื้อประโยชน์ให้หน่วยบริการ จากที่เคยถูกคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) บอกว่าจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟไม่ได้ ซึ่งจริงๆ โรงพยาบาลก็ต้องใช้จ่ายได้ เพราะถือเป็นส่วนหนึ่งของการให้บริการ

          ตัวแทนกลุ่มคนรักหลักประกันฯ ให้ความเห็นว่า ในขณะที่การแก้กฎหมายเอื้อให้โรงพยาบาลดำเนินการได้กลับไปตัดโอกาสภาคประชาชน โดยให้หน่วยบริการพิจารณา หากประเมินว่าจัดบริการบางอย่างไม่ได้ก็สามารถให้ภาคประชาชน หรือองค์กรสาธารณประโยชน์มารับงบจากหน่วยบริการไปดำเนินงานแทน ซึ่งเห็นชัดเจนแล้วว่าไม่มีความจริงใจที่จะให้ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมให้บริการ

          “สิ่งที่รับไม่ได้อีกอย่างหนึ่งคือกระบวนการแก้กฎหมายไม่มีธรรมาภิบาล เพราะคณะกรรมการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพฯ ที่มีทั้งหมด 26 คน แต่มีตัวแทนภาคประชาชนแค่ 2 คน แม้จะมีการทักท้วงเพื่อขอเพิ่มจำนวนให้เหมาะสมระหว่างผู้ให้และผู้รับบริการแต่ก็ไม่เป็นผล เนื้อหาที่ออกมาจึงเอื้อประโยชน์ให้กระทรวงสาธารณสุข แต่ภาคส่วนอื่นๆ กลับถูกลดบทบาทลง” นางเตือนใจกล่าว

          ด้านนายนิมิตร์ เทียนอุดม ตัวแทนกลุ่มคนรักหลักฯ กล่าวว่า หลักการถ่วงดุลอำนาจด้วยการแยกบทบาทระหว่างผู้ให้บริการ หรือกระทรวงสาธารณสุข และผู้ซื้อบริการให้ประชาชน หรือสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เป็นการจัดระบบบริการที่คำนึงถึงประโยชน์ของประชาชน ขณะเดียวกันก็สามารถตรวจสอบได้ แต่การแก้กฎหมายกลับไปเพิ่มอำนาจผู้ให้บริการ ด้วยการเพิ่มจำนวนผู้ให้บริการและผู้ประกอบวิชาชีพในกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติและคณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุขเพียงฝั่งเดียว ในขณะที่ภาคประชาชนมีจำนวนเท่าเดิม ส่วนตัวแทนท้องถิ่นถูกลดจำนวนลง โดยไม่มีเหตุผลอธิบายว่าการเพิ่มจำนวนคณะกรรมการจะช่วยให้ระบบมีความก้าวหน้าอย่างไร

          นายสุชิน เอี่ยวอินทร์ ผู้แทนกลุ่มคนไร้บ้าน กล่าวว่า เขารู้สึกห่วงและกังวลในกระบวนการแก้ไข พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพฯ อย่างมาก เพราะเนื้อหาสาระสำคัญของกฎหมายหลายประเด็นเข้าข่ายทำลายหลักการของบัตรทองอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะหลักการที่ให้ประชาชนทุกคนที่อยู่บนแผ่นดินไทยเข้าถึงบริการสาธารณสุขอย่างทั่วถึง เท่าเทียม และมีมาตรฐาน

          “การแก้กฎหมายครั้งนี้ไม่ครอบคลุมกลุ่มประชาชนที่รอพิสูจน์สถานะบุคคล หรือกลุ่มคนที่ตกสำรวจจากกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นคนไทยเหมือนกันให้ได้เข้าถึงสิทธิการรักษาในระบบบัตรทอง หรือการร่วมจ่ายค่ารักษาพยาบาล ณ จุดให้บริการ หากมีการกำหนดเพดานในการร่วมจ่ายจะยิ่งลดทอนโอกาสในการเข้าถึงบริการที่มีคุณภาพของประชาชน ซึ่งควรตัดประเด็นนี้ออกจากกฎหมาย แต่ควรระบุให้เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่รัฐมีหน้าที่จัดให้กับประชาชน เพราะประชาชนก็ร่วมจ่ายผ่านระบบการจัดเก็บภาษีอยู่แล้ว” นายสุชินกล่าว

587277

          นายอภิวัฒน์ กวางแก้ว ตัวแทนเครือข่ายผู้ป่วยและเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี กล่าวว่า การแก้กฎหมายแทนที่จะมุ่งแก้สิ่งที่ทำได้ดีอยู่แล้วให้ดีขึ้น กลับไม่ทำ เช่น การไม่ยอมแก้กฎหมายที่จะช่วยให้ สปสช. มีอำนาจเจรจา ต่อรอง จัดหายา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็น อย่างการสำรองยาแก้พิษ เซรุ่ม ยากำพร้า ยารักษาโรคเรื้อรัง เป็นสัดส่วนร้อยละ 4.9 ของงบประมาณการจัดซื้อยาทั้งหมด เพื่อเป็นหลักประกันว่า ถ้าเมื่อใดมีประชาชนป่วยด้วยโรคที่ต้องใช้ยาเหล่านี้ก็จะมียารักษาอย่างทันท่วงที มีความต่อเนื่องและยั่งยืน แต่ถ้าให้กระทรวงสาธารณสุขบริหารเองทั้งหมด ภาคประชาชนยังไม่มั่นใจว่าจะมีกลไกใดมารองรับการจัดซื้อยาที่จำเป็นแต่มีราคาแพงของแต่ละโรงพยาบาล หรือหากเกิดปัญหายาขาดแคลนจะมีแนวทางจัดการอย่างไร

          ด้านนายปฏิวัติ เฉลิมชาติ ตัวแทนกลุ่มคนรักหลักประกันฯ ภาคอีสาน กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้มีการเปิดเวทีรับฟังความเห็นต่อร่างกฎหมาย ต้องลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์เท่านั้น ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่ง่ายที่ประชาชนจะได้เข้าร่วม อีกทั้งการจัดเวทียังทำเพียง 4 ครั้ง คือที่เชียงใหม่ ขอนแก่น กรุงเทพฯ และสงขลาเท่านั้น ประชาชนคนใดต้องการมาร่วมต้องหาเงินค่ารถเดินทางมาเอง แต่ผู้ให้บริการที่ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการสังกัดกระทรวงสาธารณสุข กลับสามารถมาร่วมโดยเบิกจากต้นสังกัดได้

          “ทั้งนี้ กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพเห็นด้วยว่ากฎหมายที่มีอายุกว่า 15 ปีควรได้รับการแก้ไข ปรับปรุง เพื่อลดช่องว่างที่เป็นอุปสรรคในการทำงานของทุกฝ่าย แต่การแก้ไขต้องคุ้มครองให้ประชาชนได้รับสิทธิบริการสาธารณสุขอย่างมีมาตรฐานและต้องไม่ทำลายหัวใจของการมีระบบหลักประกันสุขภาพ ซึ่งการดำเนินการครั้งนี้เห็นชัดว่าไม่ได้เป็นประโยชน์กับระบบ จึงอยากเรียกร้องให้นายกฯ ยุติกระบวนการพิจารณาแก้กฎหมายแล้วเริ่มต้นกระบวนการใหม่ เพื่อให้กฎหมายเป็นธรรมกับคนทุกกลุ่ม และเพื่อให้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติยังคงยืนหยัดอยู่ได้โดยไม่ถูกบิดเบือนเจตนารมณ์ นายกฯ จะได้ไม่ต้องไปตบปากใครที่จะจ้องล้มระบบเหมือนที่เคยเป็นข่าว” นายปฏิวัติกล่าว

กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ
6 มิถุนายน 2560

44504

44567

587268

587269