2nd benefit

2nd benefit

ขบวนการสร้างเสริมสุขภาพฯ ค้านกลุ่มทุน-ผู้มีอำนาจยึดครองกลไกปฏิรูประบบสุขภาพ

New-Logo-sss

แถลงการณ์ขบวนการสร้างเสริมสุขภาพภาคประชาชนปกป้องการปฏิรูประบบสุขภาพ ส่งเสริมการกำกับตรวจสอบสสส.โดยสังคมคัดค้านกลุ่มทุนและผู้มีอำนาจยึดครองกลไกการปฏิรูประบบสุขภาพ

ตามที่มีคำสั่งของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ คสช.ที่ 1/2559 เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2559 ให้คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. จำนวน 7 คน ออกจากตำแหน่ง ได้แก่ นายแพทย์วิชัย โชควิวัฒน รองประธานกรรมการคนที่ 2 และคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอีก 6 คน ได้แก่ นายสงกรานต์ ภาคโชคดี นายเอ็นนู ซื่อสุวรรณ นายยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ นายสมพร ใช้บางยาง รองศาสตราจารย์ประภัทร นิยม และนายวิเชียร พงศธร นั้น

ขบวนการสร้างเสริมสุขภาพภาคประชาชน (Thai Health Promotion Movement) ซึ่งประกอบไปด้วยเครือข่ายภาคประชาชนจากทั่วประเทศ 20 เครือข่าย ที่ดำเนินงานเกี่ยวกับการส่งเสริมสุขภาพในด้านต่างๆในพื้นที่ทั่วประเทศ เห็นว่าคำสั่งดังกล่าวของหัวหน้าคสช.เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบธรรม เนื่องจากการตรวจสอบที่ผ่านมาโดยศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้งบประมาณภาครัฐ (คตร.) พบว่าการดำเนินงานของสสส.และคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องมิได้มีการทุจริตแต่ประการใด ส่วนกรณีที่คณะกรรมการของ สสส.บางคนดำรงตำแหน่งในองค์กรที่ได้รับทุนด้วยนั้นเกิดขึ้นเนื่องด้วย พ.ร.บ.กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ พ.ศ. 2544 ถูกออกแบบให้ตัวแทนจากองค์กรภาคประชาสังคมเข้าไปมีส่วนร่วมในการบริหาร สสส. ภายใต้ระเบียบการป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อน(COI)ที่เข้มงวด เช่น คณะกรรมการที่เกี่ยวข้องไม่สามารถอนุมัติงบประมาณในองค์กรที่ตนเองเกี่ยวข้อง เป็นต้น

อย่างไรก็ตามภายใต้สถานการณ์ทางสังคมปัจจุบัน สสส.และคณะกรรมการกองทุนฯ ซึ่งมี พลเรือเอกณรงค์ พิพัฒนาศัย เป็นประธาน ได้ทำงานร่วมกับคณะทำงานของกระทรวงสาธารณสุขที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลเพื่อหาแนวทางที่เหมาะสมโดยเน้นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว โดยได้มีการแก้ไขระเบียบข้อบังคับสสส. หลายฉบับ เน้นแก้ไขเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนของคณะกรรมการ และผ่านความเห็นชอบของบอร์ดสสส.เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ให้ดำเนินการไปตามระเบียบดังกล่าวภายใน 90 วัน และคณะกรรมการของ สสส.ได้เริ่มทยอยปฏิบัติตามระเบียบดังกล่าวแล้ว แต่กลับมีประกาศ มาตรา 44 ปลดบอร์ดของ สสส. อย่างมีเงื่อนงำดังกล่าว

ขบวนการสร้างเสริมสุขภาพภาคประชาชนเชื่อว่า คำสั่งดังกล่าวจะนำไปสู่การแต่งตั้งคณะกรรมการกรรมการกองทุนและแต่งตั้งผู้จัดการสสส.คนใหม่ ที่มาจากกลุ่มบุคคลที่ใกล้ชิดกับศูนย์กลางอำนาจรัฐ และตัวแทนจากกลุ่มทุนบางกลุ่มเข้ามาเป็นคณะกรรมการและผู้จัดการ สสส. คนใหม่ เพื่อมิให้การดำเนินการของสสส. ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ ยาและอาหาร เป็นต้น สร้างผลกระทบต่อผลประโยชน์ในกิจการของตน รวมทั้งเข้ามาแสวงหาประโยชน์จากกองทุนของสสส. ได้โดยปราศจากการตรวจสอบของสังคม

เพื่อปกป้องการปฏิรูประบบสุขภาพที่ได้ดำเนินการมาต่อเนื่องมานานกว่า 15 ปีโดยภาคประชาชนหลากหลายเครือข่าย ขบวนการสร้างเสริมสุขภาพภาคประชาชนขอประกาศ คัดค้านคำสั่งของ คสช.ที่ปลดคณะกรรมการทั้ง 7 คนออกโดยไม่ชอบธรรม และจะดำเนินการคัดค้านการประกาศแต่งตั้งกรรมการกองทุนคณะใหม่ หากพบว่าบุคคลที่จะถูกตั้งขึ้นมานั้นเป็นตัวแทนของกลุ่มผู้มีอำนาจ กลุ่มทุนที่ขัดขวางการสร้างเสริมสุขภาพของประชาชน หรือมิได้ยึดโยงกับภาคประชาชน

ทั้งนี้ ขบวนการสร้างเสริมสุขภาพภาคประชาชน จะได้จัดให้มีการประชุมใหญ่ของตัวแทนจากเครือข่ายต่างๆ ทั่วประเทศ ในวันจันทร์ที่ 11 มกราคม 2559 เพื่อประกาศแนวทางและมาตรการในการเคลื่อนไหวในกรณีดังกล่าว โดยเครือข่ายที่ตอบรับการประชุมเพื่อร่วมเคลื่อนไหวในครั้งนี้ ได้แก่ ชมรมแพทย์ชนบท เครือข่ายผู้บริโภค เครือข่ายเด็ก เยาวชนและครอบครัว เครือข่ายงดเหล้าและบุหรี่ เครือข่ายเกษตรและความมั่นคงทางอาหาร กลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน(FTA Watch) เครือข่ายองค์กรแรงงานไทย(อรท.) เครือข่ายแรงงานนอกระบบ เครือข่ายชาติพันธุ์และผู้มีปํญหาสถานะ เครือข่ายสุขภาวะผู้หญิง เครือข่ายสร้างเสริมสุขภาวะทางเพศ เครือข่ายสลัมสี่ภาค เครือข่ายหมออนามัย เครือข่ายผู้ป่วย เครือข่ายนักวิชาการปฏิรูประบบสุขภาพ เครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่น เครือข่ายสมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทย เครือข่ายสมาคมวิศการ เครือข่ายกลุ่มคนรักหลักประกัน เครือข่ายประกันสังคมคนทำงาน


ขบวนการสร้างเสริมสุขภาพภาคประชาชน (Thai Health Promotion Movement)
7 มกราคม 2559

 

ข่าวบทความเนื้อหาใกล้เคียงกัน:

|